โรงเรียนวัดเพ็ญมิตร

หมู่ที่ 1 บ้านเพ็ญมิตร ตำบลไสหร้า อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80150

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

075-486740

โรงเรียนวัดเพ็ญมิตร

ส.ต.ต.ศุภฤกษ์ จันทวงศ์
ผู้อำนวยการ
โรงเรียนวัดเพ็ญมิตร

Previous
Next
Facebook Page: Please enter a valid URL

โรงเรียนวัดเพ็ญมิตร ประวัติ

โรงเรียนวัดเพ็ญมิตร วันศุกร์เดือน ๓ แรม  ๓ ค่ำ  ตรงกับวันที่  ๑๒  เดือน  กุมภาพันธ์  ๒๔๗๔  นายชู    นุมาศ   หมื่นทองทนุราษฎร์  นายเนื่อง  ธานีรัตน์  นายแก้ว   ธราพร  พร้อมด้วยคณะพี่น้องได้ปลูกศาลาขึ้นริมคลองคุดด้วน  เป็นที่ประชุมทำบุญ  วันพุธ  เดือน  ๔ ค่ำ  ตรงกับวันที่  ๑๓  เดือย มีนาคม  ได้นิมนต์พระประสาธน์มหาธาตุเจดีย์  เจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดนครศรีธรรมราชมาปรึกษาและสร้างสำนักสงฆ์  เพื่อเป็นที่ทำบุญและได้สร้างศาลาขึ้นใหม่ และได้นิมนต์พระใบฎีกาอุ่น  สังขวิศิษฐ์  มาอยู่เป็นประจำ

   โรงเรียนวัดเพ็ญมิตร ก่อตั้งเมื่อพ.ศ. ๒๔๗๕  นายมี  จันทร์เมือง  ธรรมการอำเภอฉวาง  ได้จัดตั้งเป็น โรงเรียนขึ้นพระใบฎีกาอุ่น  สังวิศิษฐ์ เป็นผู้สอนนักเรียน

   เมื่อวันที่  ๒๘  กุมภาพันธ์  ๒๔๗๕  ยกฐานะเป็นโรงเรียนประชาตำบลฉวาง (วัดวังม่วง) ครูทำการสอนไม่คิดค่าสอน คือ พระใบฎีกาอุ่น  สังขวิศิษฐ์ นางสาวแจ่ม  นุมาศ,นายทวี  ศรีเทพ นางสาวเกื้อ  ชีตา, นายเทียบ  ศรีสุขใส ,นายเลี่ยม ศรีมณี,นายแมง  รัตนสิทธิ์, นายพร้อม  นาคประดิษฐ์

   วันที่  ๑๕  กันยายน  ๒๔๗๘  ยกฐานะเป็นโรงเรียนประชาบาลประจำตำบลฉวาง  ๓  ทางการแต่งตั้ง นายเยื้อง  รัตนชำนอง  เป็นครูใหญ่คนแรก  นายพร้อม  นาคประดิษฐ์  เป็นครูน้อย

   วันที่  ๑  มิถุนายน  ๒๔๗๙  พระครูโอภาสรัตนขันธ์  (ขำ  ศิริรัตน์) เจ้าอาวาสวัดวังม่วงสร้างโรงเรียนถาวรขึ้น (คล้ายแบบ ฉ) ทางราชการให้นามโรงเรียนว่า โรงเรียนประชาบาลตำบลฉวาง ๓ (โอภาสนฤมิตร) โรงเรียนหลังนี้ใช้เป็นอาคารเรียนอยู่ ๑๑  ปี ก็ชำรุด เนื่องจากรากฐานไม่มั่นคงทรุดเอนเอียง

   วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๑ นายนวล   บุญสนอง  ศึกษาธิการอำเภอฉวาง ได้มาทำการตรวจเยี่ยมโรงเรียนเห็นว่าชำรุด จึงสั่งไม่ให้นักเรียนเข้าเรียนเพราะไม่ปลอดภัย หลังจากนำนักเรียนออกจากโรงเรียน พระครูปลัดเที่ยง  วิธุโร  เจ้าอาวาสวัดเพ็ญมิตร  นายเนื่อง  ธานีรัตน์  ครูใหญ่คนที่ ๓ ต่อจากนายดึง  มณีมาส ได้ปลูกสร้างอาคารชั่วคราวขึ้นในระยะ ๔ ปี จำนวน ๑ หลัง

   วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๙๑  พระครูปลัดเที่ยง  วิธุโร  เจ้าอาวาสวัดเพ็ญมิตร  นายเนื่อง  ธานีรัตน์  พร้อมผู้ปกครองนักเรียน  ได้ทำการรื้อโรงเรียนที่ชำรุดและทำการปลูกสร้างใหม่  ในการสร้างครั้งนี้ได้รับเงินงบประมาณ ๘,๗๑๔  บาท  เงินประชาชนบริจาครวมเป็นค่าก่อสร้าง ๓,๐๐๐ บาทเศษ และใช้เป็นสถานที่เล่าเรียน ตั้งแต่วันที่ ๔ ตุลาคม ๒๔๙๕ เป็นต้นมา

   วันที่  ๗  เมษายน  ๒๕๐๑  อาคารถูกพายุพัดเอนเอียงไป  นายเนื่อง  ธานีรัตน์  ได้รายงานทางราชการ ได้รับเงินงบประมาณซ่อมแซม ๕,๐๐๐ บาท ทำการซ่อมแซม

   วันที่  ๓๐  มิถุนายน  ๒๕๐๓  พระครูปลัดเที่ยง   วิธุโร  เจ้าอาวาสวัดเพ็ญมิตร  ผู้อุปการะ นายผวน เทพยา  ครูใหญ่  ผู้ปกครองนักเรียน  ได้สร้างอาคารกึ่งถาวรขึ้น  ๑ หลัง  แบบ ป.๑  ขนาด ๖ ´๑๖ เมตร  ๒  ห้องเรียน  ได้เงินงบประมาณใช้สอยสมทบ  ๑,๕๐๐  บาท  สิ้นค่าก่อสร้าง ๗,๐๐๐ บาท  ยังค้างบานประตู  หน้าต่าง  เพดาน  พื้น  การก่อสร้างอาคารหลังนี้เพื่อนผ่อนคลายความแออัดยัดเยียดจากห้องเรียนเดิม  ซึ่งนักเรียน  ๒๐๐  คนเศษ

   วันที่  ๒๕  ตุลาคม  ๒๕๐๕  เกิดพายุโซนร้อน  น้ำท่วมอาคารหลังที่ ๒ ชำรุด เพราะถูกพายุพัดหนักน้ำท่วมไหลเชี่ยว  เซาะพื้นทรุดเอน  ซ่อมแซมต่อไปไม่ได้  ได้ขออนุญาตรื้อ ใช้วัสดุส่วนที่มีทำโรงอาหาร

   พ.ศ. ๒๕๑๐  นายสังเวียน  ศรีนวลดี  ศึกษาธิการอำเภอฉวาง นายผวน เทพยา ครูใหญ่ ได้เสนอของบประมาณสร้างใหม่ ๑หลังเป็นเงิน๑๕๐,๐๐๐ บาท สร้างแบบ ป.๑ ข.ขนาด ๘.๕๐´๓๖ เมตร ๔ ห้องเรียน

   วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๑๐ ดำเนินการก่อสร้าง นายเริง นากลอน ศึกษาธิการจังหวัด  นายแดง  อิทธิชัย  นายอำเภอฉวาง  นายสังเวียน  ศรีนวลดี  ศึกษาธิการอำเภอฉวาง  นายผวน เทพยา ครูใหญ่ เป็นกรรมการก่อสร้าง เงินงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด

   วันที่ ๕-๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘  ฝนตกน้ำท่วมหนัก (อุทกภัยภาคใต้) อาคารแบบเดิม ฉ. ทรุดด้านตะวันออก นายผวน  เทพยา  ครูใหญ่  ได้รายงานนายอำเภอ  ของบประมาณอุทกภัย ๒๐๐,๐๐๐ บาท  สร้างอาคารแบบ ป.๑

กิจกรรมโรงเรียน

นานาสาระ

ข้อมูลการวิจัย กินน้ำมันพืชที่บริโภคทุกวัน ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้หรือไม่?

ข้อมูลการวิจัย ไม่ว่าจะเป็นของว่างทำอาหารหรือเค้ก อาหารประจำวันของเรา แยกไม่ออกจากน้ำมันปรุงอาหาร ด้วยการบริโภคไขมันสัตว์ น้ำมันพืช และเนยเทียมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในประเทศและทั่วโลก ผู้คนจำนวนมาก เริ่มให้ความสนใจกับผลกระทบต่อสุขภาพ ของการบริโภคน้ำมัน ที่บริโภคได้ในแต่ละวัน และการบริโภคน้ำมันที่บริโภคได้ จะทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ รวมถึงเหตุการณ์โรคหัวใจและหลอดเลือด

เมื่อเร็วๆ นี้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย ได้เผยแพร่ผลการศึกษาเรื่องน้ำมันปรุงอาหาร การบริโภคไขมัน และการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ และสาเหตุอื่นๆ การวิเคราะห์ในอนาคตของ 520,000คนในทางการแพทย์ พวกเขาวิเคราะห์ข้อมูลของบุคคลกว่า 520,000คน และเปิดเผยความสัมพันธ์ ระหว่างน้ำมันบริโภคทั่วไป 6ชนิด และคาร์ดิโอเมตาบอลิก การเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ บทความนี้ชี้ให้เห็นว่า การกินเนยและมาการีน น้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน มีความสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตโดยรวม และโรคคาร์ดิโอเมตาบอลิกที่สูงขึ้น ในขณะที่น้ำมันคาโนลา น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันมะกอกแทนเนยและมาการีน สามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้อย่างมาก

เพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่างน้ำมัน และสุขภาพที่เกี่ยวข้อง นักวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ กับจำนวนของผู้คน 520,000คน ในช่วงอายุ50-71ปีผู้เข้าร่วม ระหว่างบันทึก คำนวณปริมาณน้ำมันที่บริโภคได้ทั้งหมด ในอาหารต่างๆ ผ่านแบบ สอบถามความถี่ของอาหาร ในขณะเดียวกัน ก็กำหนดประเภทของน้ำมันบริโภค ที่ใช้ในการปรุงอาหาร เนยมาการีน น้ำมันหมู น้ำมันข้าวโพด มัสตาร์ด กะหล่ำปลีดองและน้ำมันมะกอก จำนวนและความถี่ถูกนับ

จากนั้นมีการติดตาม และบันทึกสภาพร่างกายของผู้เข้าร่วมอย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลจากช่วงเวลาพื้นฐาน แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมที่มีการบริโภคเนยสูง จะมีดัชนีการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพลดลง และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

การรับประทานแอสไพริน ในขณะที่ผู้เข้าร่วม ที่รับประทานเนยเทียมในปริมาณสูง มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพ การกินยาแอสไพริน และเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคเบาหวาน มีแนวโน้มในระหว่างการติดตามผล โดยเฉลี่ย 16ปี มีผู้เสียชีวิต 129,328ราย หลังจากการปรับหลายตัวแปร นักวิจัยได้ใช้แบบจำลองการถดถอย อันตรายตามสัดส่วน เพื่อประเมินความสัมพันธ์ ระหว่างน้ำมันที่บริโภคได้ กับอัตราการเสียชีวิต จากทุกสาเหตุและพบว่า การบริโภคเนยและเนยเทียม มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด กับอัตราการเสียชีวิต จากทุกสาเหตุที่สูงขึ้น ในขณะที่ปริมาณมัสตาร์ดต่ำ น้ำมัน กะหล่ำปลีดอง และน้ำมันมะกอก มีสัดส่วนผกผันกับการตายทุกสาเหตุ และน้ำมันข้าวโพดไม่เกี่ยวข้องกับมัน

หากคุณกินเนยหรือมาการีน 1ช้อนโต๊ะทุกวัน อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ จะเพิ่มขึ้น 7เปอร์เซ็นต์ และอีก 4เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ในทางตรงกันข้าม การบริโภคน้ำมันเรพซีด หรือน้ำมันมะกอก ทุกครั้งที่เพิ่มขึ้น 1ช้อนโต๊ะต่อวัน อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ จะลดลง 2เปอร์เซ็นต์ และ 3เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ผลการประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคน้ำมัน และโรคคาร์ดิโอเมตาโบลิก พบว่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้บริโภคน้ำมันที่สอดคล้องกัน

การบริโภคเนยและมาการีน มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของโรคหลอดเลือดหัวใจ และความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ปริมาณของน้ำมันมะกอก และน้ำมันเรพซีด มีความสำคัญ กับความสัมพันธ์เชิงลบ กับสาเหตุการเสียชีวิตของโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเบาหวาน เนยหรือมาการีนที่เพิ่มขึ้น 1ช้อนโต๊ะต่อวัน จะเพิ่มอัตราการเสียชีวิต ของคาร์ดิโอเมตาโบลิกขึ้น 8เปอร์เซ็นต์ และ 6เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ และน้ำมันมะกอกที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ช้อนโต๊ะต่อวัน

จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของคาร์ดิโอเมตาบอลิกได้ 4เปอร์เซ็นต์ สำหรับการบริโภคน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 1ช้อนโต๊ะต่อวัน แต่ละครั้งอัตราส่วนความเสี่ยงที่สอดคล้องกัน ของอัตราการเสียชีวิตรวม

นอกจากนี้ นักวิจัยยังสังเกตว่า การบริโภคเนยและเนยเทียม ยังมีความสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น จากโรคมะเร็ง โรคทางเดินหายใจ โรคตับเรื้อรัง และโรคอัลไซเมอร์ การบริโภคน้ำมันมะกอกที่เพิ่มขึ้น สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคอัลไซเมอร์ได้ เมื่อเทียบกับผู้เข้าร่วม ที่ไม่ได้บริโภคน้ำมันหมู อัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุทั้งหมด และการเสียชีวิตของโรคหลอดเลือด ของผู้บริโภคน้ำมันหมูสูงขึ้น 4เปอร์เซ็นต์และ 13เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

ข่าวประชาสัมพันธ์